‘ศานนท์ หวังสร้างบุญ’ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ก่อตั้งเพจ ‘หวังสร้างเมือง’

“ผมมีความสุขกับการทำงานมาก โดยเฉพาะการทำงานให้กับเมืองที่ตัวเองอยู่ ผมว่ามีไม่กี่อาชีพที่สามารถทำงานแล้วมีประโยชน์กับตัวเราโดยตรง ถ้าเมืองมันดี มีพื้นที่ มีลานกีฬา มีสวนสาธารณะที่ดี มีโรงเรียนที่มีคุณภาพ มีโรงพยาบาลที่ดี มีการเดินทางที่สะดวก มันไม่ได้ดีต่อคนอื่นเท่านั้น แต่มันดีต่อตัวผมเองด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นงานที่มีความหมาย ผมจึงมีความสุขกับงานที่ผมทำ อย่างล่าสุดที่ผมทยอยทำตู้กดน้ำเย็นเจี๊ยบตามจุดต่างๆ ให้คนได้มาเติมน้ำ แวะพักดื่มท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว อย่างตู้กดน้ำเนี่ย พอโพสต์ไปก็จะมีฟีดแบ็คกลับมาว่า มันยังไม่ Universal Design นะ เราก็ต้องปรับปรุงเพิ่มไป สิ่งเหล่านี้ทำให้เมืองมันมีความก้าวหน้าเรื่อยๆ ไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่เสร็จแล้วจบ นี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมตื่นมาทำงานทุกวัน แต่ตอนนี้ที่อยากเน้นหน่อยคือเรื่องการศึกษา เพราะเป็นช่วงเด็กปิดเทอมพอดี ปีที่แล้วเราไปเปลี่ยนแปลงหลักสูตรมาหลายโรงเรียน เราก็ต้องมาสรุปผลกันว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้าง ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อมก็ทำมาตลอด เพราะเป็นเรื่องที่เมืองใหญ่เขาทำกันทั่วโลก แต่ กทม.ยังไม่ได้ทำ ก็ต้องทำกันต่อไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องมีส่วนร่วมกับประชาชนเยอะมากๆ ครับ”

“ถ้าคิดถึงความสุขก็คงเป็นเรื่องลูก เรื่องครอบครัว เพราะลูกผมยังเล็ก ผมพาลูกไปร่วมงานต่างๆ ที่ กทม.จัดตลอด เพราะเป็นเมืองที่เราภูมิใจ เช่น พาไปงานดนตรีในสวน งานหนังสือ ฯลฯ แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนคือปัญหาเรื่องฝุ่น ที่อันตรายต่อเด็กมาก ลูกผมกลับมาก็ไม่สบายตลอดเลย ผมว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขร่วมกับรัฐบาล เพราะปัญหาฝุ่นเกิดจากประเทศรอบๆ เราด้วย ผมคิดว่า ถ้าเราไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนประชาชน เราก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหลานี้ได้

“ส่วนสิ่งของที่ผมเห็นแล้วมีความสุข ก็น่าจะเป็น ‘จักรยาน’ ครับ อย่างแรกเพราะมันเร็วกว่าเดิน (หัวเราะ) การขี่จักรยานมันไปได้ทุกที่ ตรอกซอกซอยไปได้หมด แถมยังพับได้ ขึ้นรถไฟฟ้าได้ ถ้าไปไกลๆ ก็พับใส่รถยนต์ไปได้ การใช้จักรยานทำให้เราได้สัมผัสเมืองได้ละเอียดขึ้น การใช้จักรยานให้ทำเรารู้ได้ว่าฟุตปาธมันใช้ไม่ได้ ถนนยังเป็นหลุมเป็นบ่อ พื้นที่ไหนยังไม่มีทางลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของพี่ๆ วีลแชร์มาก พอเรารู้ถึงปัญหา เราก็ได้แก้ไขปรับปรุงไปด้วย”

Moment of Joy

“Moment of Joy ของผม คงเป็นวันที่ประชาชนมาฟีดแบ็คงานที่ทำ ยกตัวอย่างเช่น ล่าสุดมีคุณแม่ของน้องที่เป็นคนพิการมาขอบคุณในนโยบายที่สำนักงานเขตจ้างงานคนพิการมาทำงานด้วย คุณแม่เล่าว่าตั้งแต่ลูกไปทำงาน ไม่ใช่แค่เขามีอาชีพเท่านั้น แต่ลูกมีพัฒนาการมากขึ้นด้วย เพราะได้เข้าสังคม ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น พอตื่นเช้าก็อยากไปที่ทำงาน ซึ่งนโยบายนี้ สำนักงานเขตทุกเขตใน กทม. จะจ้างคนพิการ 6 คนให้ไปทำงานที่สำนักงานเขตนั้นๆ ผมจึงมีความสุขมากถ้าได้รับรู้ว่างานที่ผมทำมันมีผลกับชีวิตคน บางทีเราอยู่ในห้องแอร์เราไม่รู้หรอก แต่พอเราได้มีโอกาสพูดคุยกับคนเหล่านี้ ได้รับฟีดแบ็คกลับมา ก็ทำให้เรารู้สึกดี”

spot_img

Must Read

Related Articles

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่