“ความสุขของผมคือเมีย (คุณ ‘ตู่’ ปิยวดี มาลีนนท์) วินรักเมียที่สุด แค่ลืมตาตื่นมาเจอเมีย ก็มีแรงใช้ชีวิตแล้ว เพราะฉะนั้น ครอบครัวคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง ถ้าครอบครัวมีปัญหา ผมเดินหน้าต่อไม่ได้ ครอบครัวคือพลังที่กระตุ้นให้ผมมีแรงทำงานอยู่ทุกวันนี้
“ความสุขอย่างที่สอง ซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คืองาน ผมอยากทำให้สตรีทฟู้ดไทยเติบโต อยากช่วยให้เขาขายได้ เราจึงเน้นรีวิวตามร้านที่คนไม่ค่อยรู้จัก ร้านที่โอกาสเข้าถึงน้อย คนดูก็เห็นผ่านคลิปว่าเราไม่ได้เป็นแค่นักรีวิว เราเป็นเพื่อน เราให้ความจริงใจแก่เขา เวลาไปที่ไหนพ่อค้าแม่ค้าก็ต้อนรับอย่างดี ยิ้มให้เรา มอบความรักความผูกพัน อาชีพนี้จึงทำให้ผมมีความสุขทุกวัน
“ผมจัดเทศกาลอาหาร รวมร้านค้าซึ่งเป็นพันธมิตรของเรามาออกบูธ ในห้างสรรพสินค้า เน้นย่านชานเมือง เพราะอยากให้พี่ๆ น้องๆ แถบนั้นได้ฟินกับของอร่อยซึ่งคัดมาพิเศษ ร้านที่มาออกบูธบางร้าน เขายอมมาให้ผมโดยเฉพาะ ผมจัดมา 3 ครั้งแล้ว คนมาร่วมงานเยอะทุกครั้ง ดีใจมาก ตั้งใจว่าจะทำต่อไปเรื่อยๆ เพราะเรามีพันธมิตรเพิ่มขึ้น เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เราอยากผลักดันสตรีทฟู้ดไทยแลนด์ อาหารของเราไม่แพ้ใครในโลกจริงๆ อยากให้คนทั่วโลกได้รับรู้ ทุกวันนี้ผมทำคลิปออกมา ไม่มีเวลาแม้แต่จะทำซับภาษาอังกฤษหรือภาษาจีน แต่ร้านที่ผมไปรีวิวนั้นนักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นร้านหมด แค่ดูภาพก็สื่อสารได้แล้วว่าของมันอร่อย
“ของที่แทนความสุขของผมต้องเป็นอาหาร และเมนูที่กินเมื่อไหร่ก็เอนจอยเสมอ ยกให้ ‘กะเพราไก่ไข่ดาว’ เมนูง่ายๆ ที่กินได้ทุกวัน ผมเปรียบเมียผมเป็นผัดกะเพรา เราขาดเมนูนี้ไม่ได้ บางวันใส่พริกเยอะรสก็เผ็ดจัด บางวันรสจืดๆ กินง่าย บางวันก็โปะไข่ดาว บางวันก็ไข่เจียว รสชาติไม่จำเจ กินได้ไม่มีเบื่อ
Moment of Joy : วันที่อัลตราซาวนด์แล้วเห็นหน้าลูกสาวชัดๆ ผมกรี๊ดจนหมอหัวเราะ ยิ่งหมอบอกหน้าเหมือนพ่อนะเนี่ย ผมคลั่งเลย นั่งดูรูปทุกวัน นี่คือครอบครัวของเรา คือฝันที่เป็นจริง
